วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ความรู้สึก...นั้น

...อยากตื่นเต้น ...ทุกเช้า


         ...เหมือนเมื่อก่อน ตอนที่มีเเรงบันดาลใจอยู่เต็มเปี่ยม

ฉันอยากได้ความรู้สึกนั้นกลับมา ...ไม่ใช่ที่เป็นอยู่ตอนนี้

ใครๆ ก็บอกว่า ..เวลา.. สำคัญที่สุด เเต่ว่า...ฉันเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย

ฉันเพิ่งรู้ตัวว่า ตัวเองโลเลเเค่ใหน เคยอยากจะทุ่มเทกับฝัน...หมดใจ

เเต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับไม่กล้าทิ้งซักอย่าง ก็...เลื่อกไม่ได้

มันเลยทำให้...เสียเวลาไปเยอะเลย ทั้งๆที่เคยคิดว่า ทำได้เเท้ๆ

มาถึงตอนนี้ ...ก็ไม่มีใครอยู่ข้างฉันซักคน ...

อดทนเท่านั้นที่ทำได้ ...


          ...มาคิดดูเเล้ว ฉันควรเด็ดขาดมากกว่านี้

..ลงมือทำมากกว่านี้  ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง

ก็ดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ  ...^______________^

สู้ๆ นะ       ...ยัยขี้โม้เอ้ย...

วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

... ต่อเนื่อง หลังจากน้ำท่วม

น้ำท่วมเเห้งจน ...จะท่วมใหม่อีกรอบเเล้ว

เเต่...ผลพวงยังไม่จบนะสิ ชาวบ้านปิดถนนเรื่องเงินช่วยเหลือน้ำท่วม

ส่วนฉันก็ ...ต้องรื้อบรรจุภัณฑ์ที่น่าสงสาร มูลค่านับเเสน มาทำการ

เช็ด ล้าง ขัด ถู เเละ...ทิ้ง(ในกรณีที่ไม่ไหวจริงๆหง่ะ)

คือว่า ฉันคิดว่า ...โบนัส.. มันอยู่ในนี้ด้วยนะสิ ToT

เพราะฉะนั้น ... งานเข้าเเล้วสู้ต่อไป ...

                                                    ...เเสนทวี

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ไทนี่

14-05-2012 
ไทนี่ เบิร์ด









... หลังกลับจากที่ทำงาน ก็เหลือบไปเห็นโต๊ะญี่ปุ่น ว่างๆ 1 ตัว  ก็เลยเกิดอยากทำบางอย่างกับมันขึ้นมา


ในที่สุดก็ได้ เจ้าไทนี่เบิร์ดมา ขนที่ลำ่ตัวของไทนี่ไม่เป็นระเบียบ ...สื่อถึงสิ่งหนักๆที่ต้องพบเจอ หัวของ


ไทนี่ ก้มมองต่ำ...สื่อถึงความหวังที่ริบหรี่  ...






...เคยได้ยินมาว่า ภาพที่คนเราวาดนั้น สามารถบอกถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในได้ โดยที่...เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลย


ว่าเเท้จริงเเล้วตัวเองกำลังรู้สึก...อย่างไร    ใช่เเล้ว หลังจากวาดเจ้าไทนี่ ฉันก็วาดอีกหลายๆอย่างลงบน


โต๊ะญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น...ต้นไม้ ...มังกร ...น้ำเเข็ง  ทั้งหมดนี่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลย  ...เี่กี่ยวอย่างเดียว 


คือ ภาพทั้งหมด...มาจากคนๆเดียวกัน   หลังจากขีดเขียนเจ้าโต๊ะญี่ปุ่นจนพอใจ ...ฉันกลับมามองไทนี่่


ก็พบว่า สภาพที่ฉันเป็นตอนนี้ ไม่ต่างกับเจ้าไทนี่เเม้เเต่น้อย ...มันรู้สึกไร้ความภาคภูมิใจ  ทั้งๆที่ ฉัน


ตั้งใจแล้วเเท้ๆ  























วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

บ่นครั้งเเรก

...ฮัลโหลลลล อากาศร้อนๆอย่างนี้ชวนให้คลั่งจริงๆ ตั้งเเต่เกิดมาปีนี้เนี่ย บอกได้คำเดียวว่า ''นรก" รังสีนรกนี่เเทรกเข้าทุกๆรูขุมขนจริงๆ พระเจ้า 40 องศา บ้าไปเเล้ว ทำเอาความตั้งใจจะเป็นพนักงาน Q.C. ที่ดี ถดถอยไปเเล้ว (โทษไปนั่นนะเธอ) 

นี่หัวหน้าฝ่าย Q.C. ก็ลาคลอดได้ครบเดือนเเล้ว ใกล้เเล้วหล่ะ ใกล้เเล้ว...อยู่คนเดียวเนี่ย เเย่สุดๆ ใหนจะเพื่อนร่วมงานที่จ้องเเต่จะเเอนตี้ ใหนจะงานทีึ่เเทบจะทำไม่ทัน โอ้...สวรรค์ ทำเอาอยากจะลาออกเป็นสิบๆรอบ เเถมยังเจอความกดดัน...ไม่รู้จบจริงๆ 

....เเล้วฉันจะทำอะไรได้(วะ)เนี่ย  
ได้บ่นเเล้ว เฮ้อ ...สบายใจ จริงๆเเล้วเค้ามีเพื่อนคนหนึ่งที่รับฟังเรื่องน่าเบื่อๆ ที่เราคนนี้เล่าให้ฟัง อืม ...เค้าคงไม่ได้อยากฟังหรอก เเต่เราอยากเล่า อันที่จริงเรื่องน่าปวดหัวมีอีกเยอะ เเต่บ่นไปก็เท่านั้น 

ตอนนี้ความตั้งใจคือ
ลงเรียนเพื่อเอาปริญญาตรี ไม่ได้มาเพื่อเงินเดือนหรอกนะ ++
เก็บเงินเพื่อซื้อคอม อยากได้มาหลายปีเเล้ว เเต่เจ้ากรรมเก็บเงินไม่ได้ซะที (กระเป๋ารั่ว รึไงเนี่ย)

สุดท้ายเเล้ว จบดีกว่า...ขอจบด้วยวลีเดิมๆ "สู้ๆ สู้ตาย เจ้าค่ะ"

วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555

เมื่อหัวหน้าลา...เเล้วฉันหล่ะ T T

...เป็นผู้ช่วยอยู่ดีๆ วันดีคืนดี หัวหน้าคิวซีก็มีเหตุต้องลาคลอด อ้าว...เเล้วเราจะทำยังไงหล่ะทีนี้

ก็ต้องทำเเทนสิ T.T โอ้บร่ะเจ้า จากงานที่ทำอยู่ไม่กี่อย่าง ตอนนี้ทำ...หลายอย่าง ไม่รู้จะเว้าอีหยัง

เเละดูเหมือนว่าเวลาจะไม่เมตตาผู้ช่วยฝึกหัด...ตัวน้อยๆคนนี้เอาซะเลย

...ยังไงก็ตามเเต่ มาถึงขั้นนี้เเล้วจะถอยก็กระไรอยู่ ...ขอยืมคำจีอึนหน่อยนะ สู้ๆๆตาย ...

(ตายเเน่กรูT.T)

...เเละวันนี้ก็เป็นอีก 1 วัน กับการลุยงานคิวซีเดี่ยว ให้ตายเหอะ สารเคมีเนี่ย แสบมากๆ ถ้าทาเเป้งเนี่ย

จะช่วยลดอาการเเสบได้มั๊ยนะ อยากรู้ต้องลอง ...จะได้ผลรึเปล่านะ เอาไว้ครั้งหน้า...รู้ผลแน่

เเต่ตอนนี้ เเสบโค-ตะ-ระ เลย T^T

วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

เริ่มงานกันเลยนะ

...ก้าวเเรกที่เข้ามาในโรงงาน บอกได้เลยว่า...น่ากลัวอ๊ะ มีเเต่ผู้ชายในโรงงาน (เนื่องจากลักษณะงานเป็น งานที่ต้องใช้เเรง...เป็นอย่างมาก) ผู้หญิงก็มีนะ เเต่น้อยมาก

...เริ่มงานกับการเข้าไลน์ การผลิต เเรกเริ่มทีเดียวเป็น พนักงานเเพ็คกิ้ง ...เป็นได้อยู่ประมาณ 3 เดือน ก็ได้มีเหตุ

ต้องเปลี่ยนตำเเหน่ง มาเป็น เเม่บ้าน...!!! บ้าำไปเเล้ว อย่าเชื่อนะ เค้าล้อเล่น ตำเเหน่งที่ได้ ได้เป็นผู้ช่วยQ.C.

เเล้วมันคือ ตำเเหน่งอะไรกันหล่ะเนี่ย คืองี้นะ ทุกโรงงานอ๊ะ ต้องมีนะจ๊ะ ไม่งั้นเนี่ย คุณอาจเห็นพลาสติกใน

ถุงขนมโปตี้ หรืออาจเห็นซากหนูในตู้เย็นรุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัทชะเเว๊บ อะไรทำนองนี้ พอจะเดากันออกรึ

ยังอ๊ะ ใบ้ให้อีกนิด เป็นตำเเหน่งที่ถ้าพูดเเบบลบๆก็ พวกชอบจับผิดชาวบ้านเค้า เค้าทำอะไรกันอยู่ก็ไปขอดู

โน่น นิด ดูนี่หน่อย หรือ ถ้าบางที่ตำเเหน่งนี้เนี่ย จะเป็นคนสุ่มเเกะสินค้าที่ผลิตเสร็จเเล้ว เพื่อตรวจเช็ค ย้ำว่า

สุ่ม นะคะ สุ่ม ไม่ใช่ผลิตเเล้ว เเกะทุกอัน ทุกชิ้น อันนี้ก็ไม่ไหวจะเคลียร์...ฮั่นเเน่ พอจะเดาออกเเล้วใช่ใหมคะ

พอเเละ...เกริ่นยาวเกินไป เฉลยเลยเเล้วกัน ตำเเหน่งที่ได้คือ ... คือ...พนักงานผ่ายควบคุมคุณภาพ นั่นเอง

เเต่เค้าได้เป็นผู้ช่วยนะ ถ้าให้เค้าไปเป็นคิวซีเลยมีหวัง คูณคงจะได้เห็นอะไรที่มากกว่าซากหนูในตู้เย็นซะอีก

เมื่อได้เป็นผู้ช่วยคิวซีเเล้ว ต้องทำอะไรบ้างนะเหรอ ...ไว้จะมาเล่าสู่กันฟังในวันทำการถัดไปเเล้วกันนะ

ขอติดไว้ก่อน บ๊าย บาย จุ๊บๆ

เผชิญโลก...ลั้ลลา (คิขุไปมั๊ยเนี่ย)

...เรื่อง นี้ยังไม่ตั้งชื่อเรื่อง (ก็ยังคิดไม่ออกนี่นา ติดไว้ก่อนนะ)

...เอ จะเริ่มเล่ายังไงดีนะ... อ๊ะ!! คิดออกเเล้ว^^

เล่าเลยละกัน เริ่มย้อนไปตั้งเเต่ 1 ปีที่เเล้ว....

ด้วยความคิดที่ว่า...อยากโตด้วยตนเอง(เลือดวัยรุ่นเเรงมาก ทั้งๆที่่ตอนนั้นขึ้นเลขสองเเล้ว)

เค้าจึงเลือกออกมาอยู่คนเดียว พอคุณยายรู้เข้า เท่านั้นเเหละ...บ้านเเทบเเตก เล่นเอาหลานสาวคนนี้น้ำตาเล็ด

ลุ้นระทึกว่า จะได้ออกมั๊ยหนอ ขอให้ได้ออกเถอะ สาธุๆ ...เเล้วเด็กอายุ 20 ปี จะออกไปอยู่ตัวคนเดียวได้ยังไง? แถมเป็นเด็กผู้หญิงด้วยนี่นะ... จะไปรอดเหรอ

เเต่บัดนั้น เลือดวัยรุ่นเเรงมาก อยากออกม๊ั๊ก มาก ...... อยากใช้ชีวิตอิสระ (ติสอย่างเเรง) คุณพ่อเลยยื่นข้อเสนอ ไปอยู่บริษัทพ่อใหม ...คิดอยู่ 2 วัน โอเคค่ะ ตกลง อย่างน้อยคุณยายก็คงจะยอมให้หลานคนนี้ออกไปอย่างสงบ ไม่ถูกตัดหางปล่อยวัด...มั้งคะ

เเล้วในเดือนนั้นเองเค้าก็ได้เก็บข้าวเก็บของ(เก็บเเต่ของก็พอมั้ง --") ย้ายจากถิ่นฐานเดิม มาเริ่มต้นเผชิญโลก ณ เเดนอยุธยา ในบริษัทเเห่งหนึ่ง ตามข้อเสนอของคุณพ่อ

ที่นี่...ฉันมาเริ่มต้นเรื่องราว..ที่นี่ค่ะ